loading...

ขนลุกกันทั้งบ้าน หญิงป่วยมะเร็งหมดลมหายใจแล้ว ญาติเตรียมจัดงานศพ จู่ๆฟื้นขึ้นมาตบมือ ร้องเพลงสนุกสนาน(ชมคลิป)

ขนลุกกันทั้งบ้าน หญิงป่วยมะเร็งหมดลมหายใจแล้ว ญาติเตรียมจัดงานศพ จู่ๆฟื้นขึ้นมาตบมือ ร้องเพลงสนุกสนาน(ชมคลิป)
loading...

ขนลุกกันทั้งบ้าน หญิงป่วยมะเร็งหมดลมหายใจแล้ว ญาติเตรียมจัดงานศพ จู่ๆฟื้นขึ้นมาตบมือ ร้องเพลงสนุกสนาน (ชมคลิป)
loading...
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 เมษายน 2560 ที่ผ่านมา มีรายงานว่าที่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 6 ต.อ่าวช่อ จ.ตราด ได้มีหญิงสาวรายหนึ่งทราบชื่อคือ นางทุเรียน ศรีบัวแก้ว ซึ่งนอนป่วยเป็นโรคมะเร็งมานานกว่า 1 ปี 4 เดือน ได้นอนช็อก หมดสติ และไม่หายใจ โดยทางสามี ญาติๆ ก็คิดว่านางทุเรียนเสียชีวิตแล้ว ได้เตรียมการจัดงานศพโดยมีเพื่อนบ้านจำนวนมากเข้ามาดูใจ กระทั่งเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง ทางทุเรียนเกิดฟื้นขึ้นมา และให้สามีจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เพื่อนบ้าน มีการปรบมือร้องเพลงอย่างสนุกสนาน เหมือนเจ้าตัวไม่รู้ว่าตัวเองป่วยสร้างความตะลึงแก่คนที่มา

loading...
ที่มา : kanomjeeb.com

รู้ไว้จะได้ไม่โดนหลอก!! โฉนดครุฑแดง ครุฑเขียว ครุฑดำ ครอบครองต่างกันอย่างไร!? เผลอนิดเดียวก็โดนยึดได้ใครมีที่ดินอ่านด่วน!!

รู้ไว้จะได้ไม่โดนหลอก!! โฉนดครุฑแดง ครุฑเขียว ครุฑดำ ครอบครองต่างกันอย่างไร!? เผลอนิดเดียวก็โดนยึดได้ใครมีที่ดินอ่านด่วน!!

โฉนดครุฑแดง ครุฑเขียว ครุฑดำ ครอบครองต่างกันอย่างไร!? เผลอนิดเดียวก็โดนยึดได้ใครมีที่ดินอ่านด่วน!!

การครอบครองที่ดิน ถือเป็นกรรมสิทธิ์ที่ประชาชนควรรักษาไว้ ซึ่งสิทธิโดยมีเอกสารเป็นเครื่องยืนยัน หรือที่รู้จักกันว่า โฉนดที่ดิน เป็นหนังสือสำคัญซึ่งออกตามประมวลกฎหมายที่ดิน รวมทั้งโฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง และตราจองที่ว่า “ได้ทำประโยชน์แล้ว” บ่งบอกให้รู้ว่า ผู้เป็นเจ้าของที่ดินมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างสมบูรณ์ มีสิทธิประโยชน์จากที่ดิน มีสิทธิจำหน่าย มีสิทธิขัดขวางไม่ให้ผู้ใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

loading...
ทั้งนี้เราอาจจะสังเกตเห็นตราของครุฑแดง ครุฑเขียว ครุฑดำ บนโฉนด เป็นชื่อเรียกง่ายๆของลักษณะที่ดิน

‪‎ครุฑแดง คือ “โฉนดที่ดิน (น.ส.4)” ซึ่งเป็นเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ที่ชัดเจนที่สุด ซื้อขายได้ โอนได้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็อย่างที่ ๆ เราส่วนใหญ่มีครอบครองกัน ส่วนคำว่าโฉนดหลังแดง แตกต่างกับครุฑแดง มันคือเอกสาร น.ส.4 จะมีการระบุด้านหลังโฉนดว่า ห้ามโอน !! ภายในระยะเวลา5-10 ปี

‎ครุฑเขียว คือ “หนังสือรับรองการทำประโยชน์ ” ประเภท น.ส.3 ก. ย้ำว่า น.ส.3 ก. ซึ่งออกในท้องที่ที่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ

ครุฑดำ คือ “หนังสือรับรองการทำประโยชน์” ประเภท น.ส.3 และ น.ส.3 ข. จำง่าย ๆ ละกันว่า สองอันนี้ ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ

แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑)

แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.๑) คือใบแจ้งการครอบครองที่ดินเป็นหลักฐานว่าผู้ครอบครองเป็นผู้แจ้งว่า ตนครอบครองที่ดินแปลงใดอยู่ (แต่ปัจจุบันไม่มีการแจ้ง ส.ค.๑ อีกแล้ว) ส.ค.๑ ไม่ใช่หนังสือแสดงสิทธิที่ดิน เพราะไม่ใช่หลักฐานที่ทางราชการออกให้เพียงแต่เป็นการแจ้งการครอบครองที่ดินของราษฎรเท่านั้น

ดังนั้นตามกฎหมาย ที่ดินที่มี ส.ค.๑ จึงทำการโอนกันได้เพียงแต่แสดงเจตนาสละการครอบครองและไม่ยึดถือพร้อมส่งมอบให้ผู้รับโอนไปเท่านั้น ก็ถือว่าเป็นการโอนกันโดยชอบแล้ว ผู้มี ส.ค.๑ มีสิทธินำมาขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) ได้ 2 กรณี คือ

กรณีที่ ๑ นำมาเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดินตามโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ กรณีนี้ทางราชการจะเป็นผู้ออกให้เป็นท้องที่ไป โดยจะมีการประกาศให้ทราบก่อนล่วงหน้า

กรณีที่ ๒ นำมาเป็นหลักฐานในการขอออกโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) เฉพาะราย คือกรณีที่เจ้าของที่ดินมีความประสงค์จะขอออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ก็ให้ไปยืนคำขอ ณ สำนักงานที่ดินที่ที่ดินตั้งอยู่เฉพาะการออกโฉนดที่ดินนี้ จะออกได้ในพื้นที่ที่ได้สร้างระวางแผนที่สำหรับออกโฉนดที่ดินไว้แล้วเท่านั้น

loading...
ใบจอง (น.ส. ๒)

ใบจอง คือหนังสือที่ทางราชการออกให้เพื่อเป็นการแสดงความยินยอมให้ครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินเป็นการชั่วคราว ซึ่งใบจองนี้จะออกให้แก่ราษฎรที่ทางราชการได้จัดที่ดินให้ทำกินตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งทางราชการจะมีประกาศเปิดโอกาสให้จับจองเป็นคราว ๆ ในแต่ละท้องที่และผู้ต้องการจับจองควรคอยฟังข่าวของทางราชการ

ผู้มีใบจองจะต้องเริ่มทำประโยชน์ในที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน ๖ เดือนต้องทำประโยชน์ในที่ดินให้แล้วเสร็จภายใน ๓ ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับใบจองและจะต้องทำประโยชน์ให้ได้อย่างน้อยร้อยละ ๗๕ ของที่ดินที่จัดให้ ที่ดินที่มีใบจองนี้จะโอนให้แก่บุคคลอื่นไม่ได้ เว้นแต่จะตกทอดทางมรดก เมื่อทำประโยชน์ตามเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว ก็มีสิทธินำใบจองนั้นมาขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. หรือ น.ส.๓ ข) หรือโฉนดที่ดินได้แต่หนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือโฉนดที่ดินนั้นจะต้องตกอยู่ในบังคับห้ามโอนตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. และ น.ส.๓ ข)

หนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. และ น.ส.๓ ข) หมายความว่าหนังสือรับรองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าได้ทำประโยชน์ในที่ดินแล้ว

น.ส. ๓ ออกให้แก่ผู้ครอบครองที่ดินทั่ว ๆ ไป ในพื้นที่ที่ไม่มีระวาง มีลักษณะเป็นแผนที่รูปลอย ไม่มีการกำหนดตำแหน่งที่ดินแน่นอน หรือออกในท้องที่ที่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ

ซึ่งรัฐมนตรียังไม่ได้ประกาศยกเลิกอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินของหัวหน้าเขต นายอำเภอ หรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ (นายอำเภอท้องที่เป็นผู้ออก) น.ส. ๓ ก. ออกในท้องที่ที่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ

โดยมีการกำหนดตำแหน่งที่ดินในระวางรูปถ่ายทางอากาศ (นายอำเภอท้องที่เป็นผู้ออกให้) น.ส. ๓ ข. ออกในท้องที่ที่ไม่มีระวางรูปถ่ายทางอากาศ และรัฐมนตรีได้ประกาศยกเลิกอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดินของหัวหน้าเขต นายอำเภอหรือปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอแล้ว (เจ้าพนักงานที่ดิน เป็นผู้ออก)

ใบไต่สวน (น.ส. ๕)

ใบไต่สวน คือหนังสือแสดงการสอบสวนเพื่อออกโฉนดที่ดินเป็นหนังสือแสดงให้ทราบว่าได้มีการสอบสวนสิทธิในที่ดินแล้ว สามารถจดทะเบียนตามประมวลกฎหมายที่ดินได้ ใบไต่สวนไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ แต่สามารถจดทะเบียนโอนให้กันได้

ถ้าที่ดินมีใบไต่สวนและมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์แสดงว่าที่ดินนั้นนายอำเภอได้รับรองการทำประโยชน์แล้ว เมื่อจดทะเบียนโอนจะต้องจดทะเบียนในหนังสือรับรองการทำประโยชน์ก่อน แล้วจึงมาจดแจ้งหลังใบไต่สวน แต่ถ้าใบไต่สวนมีแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. ๑) หรือไม่มีหลักฐานที่ดินใด ๆ และเป็นที่ดินที่นายอำเภอยังไม่รับรองการทำประโยชน์ จะจดทะเบียนโอนกันไม่ได้ เว้นแต่เป็นการจดทะเบียนโอนมรดก

ประโยชน์ของโฉนดที่ดิน

ทำให้ผู้ครอบครองที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้มีหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินยึดถือไว้เป็นหลักฐาน ทำให้เกิดความมั่นคงในหลักกรรมสิทธิ์แก่ผู้เป็นเจ้าของที่ดินใช้เป็นหลักฐานในการพิสูจน์สิทธิในที่ดินของตนทั้งต่อรัฐและในระหว่างเอกชนด้วยกันทำให้รู้ตำแหน่งแหล่งที่ตั้ง ตลอดจนขอบเขตและจำนวนเนื้อที่ของที่ดินแต่ละแปลงได้ถูกต้อง ทำให้สามารถป้องกันการบุกรุกขยายเขตครอบครองเข้าไปในที่ดินของรัฐ

ซึ่งเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ที่สงวนหวงห้าม ที่สาธารณประโยชน์ และที่ดินที่ทางราชการได้กันไว้เป็นเขตป่าไม้ ทำให้สามารถระงับการทะเลาะวิวาท การโต้แย้ง หรือแย่งสิทธิในที่ดินหรือการรุกล้ำแนวเขตที่ดินซึ่งกันและกัน ทำให้ปัจจัยพื้นฐานในการผลิตทางเศรษฐกิจ มีความมั่นคงและมีผลเป็นการลดต้นทุนการผลิตด้วย ทำให้เกิดความรักและความห่วงแหนที่ดินของตน มีแรงจูงใจที่จะปรับปรุงและพัฒนาที่ดินของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ใช้เป็นหลักฐานแสดงทุนทรัพย์หรือหลักประกันในการขอสินเชื่อ และกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้เป็นทุนในการเพิ่มกำลังการผลิตและรายได้เพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ให้สูงขึ้น ใช้เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันบุคคลเข้าทำงาน ประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยต่อพนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือศาล ฯลฯ

การตรวจสอบหลักฐานสำหรับที่ดิน สำหรับที่ดินที่เป็นโฉนดกระทำได้โดยสะดวกรวดเร็วเป็นประโยชน์แก่บุคคลที่ประสงค์จะจำหน่าย จ่าย โอน เนื่องจากการโอนที่ดินที่มีโฉนดที่ดินไม่ต้องประกาศ เว้นแต่มรดก

เอกสารสำคัญทั้งหมดนี้แม้จะแสดงถึงการเป็นผู้มีสิทธิดีกว่าบุคคลอื่นแล้วก็ตาม ถ้าหากท่านปล่อยที่ดินให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าไม่ทำประโยชน์ในที่ดิน กล่าวคือ ถ้าเป็นที่ดินที่โฉนดที่ดิน ปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 10 ปี และที่ดินมีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ปล่อยทิ้งไว้นานเกิน ๕ ปีติดต่อกัน ที่ดินดังกล่าวจะต้องตกเป็นของรัฐตามกฎหมาย หรือถ้าหากปล่อยให้บุคคลอื่นครอบครองโดยสงบเปิดเผย โดยมีเจตนาเอาเป็นเจ้าของโดยท่านไม่เข้าขัดขวาง สำหรับที่ดินที่มีโฉนดที่ดินเป็นเวลา ๑๐ ปีติดต่อกัน

บุคคลที่เข้าครอบครองนั้นก็จะมีสิทธิไปดำเนินคดีทางศาล เพื่อให้ศาลมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นโดยการครอบครองได้ และที่ดินที่มีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.๓ น.ส.๓ ก. น.ส.๓ ข) ใช้เวลาแย่งการครอบครองเพียง ๑ ปีเท่านั้น ท่านก็จะเสียสิทธิ ดังนั้นเมื่อที่ดินของท่านมีเอกสารสำคัญดังกล่าวอยู่แล้ว ก็ควรทำประโยชน์และดูแลรักษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ที่ดินก็จะเป็นของท่าน และเป็นมรดกที่มีค่าให้แก่ทายาทของท่านต่อไป

loading...
ขอขอบคุณข้อมูลที่มาจาก: http://www.siamupdate.com

สมุนไพรลดเบาหวาน-สรรพคุณล้นเหลือ ชื่อว่า “โทงเทง” ชื่อนี้มีประโยชน์จริงๆ !!

สมุนไพรลดเบาหวาน-สรรพคุณล้นเหลือ ชื่อว่า “โทงเทง” ชื่อนี้มีประโยชน์จริงๆ !!


โทงเทง เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่คงจะสงสัยว่าคืออะไร แต่ถ้าพูดชื่อนี้กับคนเฒ่าคนแก่ตามต่างจังหวัดอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างหรือเคยทานกันมาแล้ว ส่วนมากจะพบเห็นได้ตามข้างทางข้างถนน
loading...
โทงเทงเป็นพืชล้มลุกจัดอยู่ในจำพวกหญ้า ใบกลม ดอกสีเหลือง มีผลกลมพองปลายแหลม ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวจีนเพราะมีสรรพคุณเป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ สามารถหาได้ตามข้างทางตามต่างจังหวัด มักขึ้นริมรั้ว ชายป่า ข้างคลอง ดงหญ้าข้างทาง ในที่รกๆ เมื่อสมัยก่อนพบเห็นกันทั่วไป หรือบางแหล่งที่มีชาวจีนอาศัยอยู่อาจจะปลูกไว้เพื่อรับประทานจัดว่าเป็นสรรพคุณทางยาที่มีประโยชน์
โทงเทงฝรั่งหรือที่เราเรียกกันแบบหรูๆว่า กูสเบอรี่ เป็นพืชชนิดเดียวกันแต่จะเป็นคนละสายพันธุ์ มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ซึ่งสังเกตได้ที่ใบโทงเทงจะขอบเรียบแต่โทงเทงของฝรั่งจะขอบหยักมีสรรพคุณคล้ายกันหลายอย่างและสามารถใช้แทนกันได้

ประโยชน์ของการทานโทงเทง

loading...
1. มีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ
2. ช่วยบรรเทาอาการต่อมทอนซินอักเสบ ฝีในคอ โดยตำให้ละเอียดแล้วละลายในน้ำส้มสายชูและทาไว้ที่กระพุ้งแก้มแล้วค่อยๆกลืนน้ำลายที่ละน้อยๆ รวมถึงนำมาต้มกับเปลือกส้มจีนแห้งเพื่อช่วยบรรเทาอาการหลอดลมอักเสบ ไอ หอบ
3. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี และแก้อาการปวดศีรษะ
4. ช่วยขับพยาธิในลำไส้และเป็นยาระบายอ่อนๆ
5. เป็นยาขับปัสสาวะ และบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ดี
6. บรรเทาอาการแผลฟกช้ำ ลดอาการบวม อาการอักเสบ โดยการตำลำต้นมาพอกที่บริเวณบาดแผล
7. บรรเทาอาการโรคหอบหืด สามารถใช้ได้ทั้งต้นแห้ง 1/2 กิโลกรัม นำมาต้มกับน้ำ แล้วเติมน้ำตาลกรวดลงไปให้หวานรับประทานครั้งละ 1/1 ถ้วยแก้ว ทานวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร ทานติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน หยุดยา 3 วัน หลังจากนั้นทานต่อไปอีก 10 วัน พัก 10 วัน และทานต่ออีก 10 วันเป็นเวลา 1 เดือน แล้วค่อยสังเกตอาการ
ปัจจุบันอาจจะไม่ค่อยมีให้เห็นสักเท่าไรเรียกได้ว่าเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว แนะนำว่าควรปลูกเอาไว้บ้างก็ดีอย่างน้อยชนรุ่นหลังก็ได้มีโอกาสรู้จัก โทงเทง กันบ้าง
loading...

น้ำลายสอ!! เผยสูตรไม่ลับ วิธีการทำไส้อ่อนย่างนุ่ม กับ น้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด!! อร่อยมากจนหยุดไม่อยู่



loading...
สูตรไม่ลับ วิธีการทำไส้อ่อนย่างนุ่ม กับ น้ำจิ้มแจ่วรสเด็ด!! อร่อยมากจนหยุดไม่อยู่
วิธีทำไส้อ่อนย่างนุ่มๆ ละมุนลิ้น
วัตถุดิบ
1.ไส้อ่อน 350 กรัม
2.รากผักชี 2-3 ราก
3.กระเทียม กลีบเล็ก 1 หัว
4.พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
5.ซอสหอยนางรม 2 ช้อนชา
6.ซอสปรุงรส ฝาเขียว 2 ช้อนชา
7.ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
8.น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
9.เกลือป่น 1 ช้อนชา
10.ตะไคร้ 1 ต้น หั่นแล้ว บุบให้แตก
11.ใบมะกรูด 2-3 ใบ
12.น้ำเปล่า ไว้สำหรับต้มไส้อ่อน (กะให้ท่วมไส้อ่อน เวลาต้ม)

วิธีการทำ
loading...

1.นำรากผักชี กระเทียม พริกไทยป่นใส่ในครกและโขลกให้ละเอียด
2.นำไส้อ่อนมาล้างทำความสะอาด โดยขยำไส้อ่อนกับเกลือ แล้วนำไปล้างน้ำให้สะอาด
2-3 ครั้ง เสร็จแล้วพักไว้ ทำขั้นตอนต่อไป
3.ต้มน้ำเปล่า ใส่ ตะไคร้ ใบมะกรูดและเกลือลงไป เพื่อดับคาว เมื่อน้ำเดือดพล่านจากนั้น นำไส้อ่อนที่เราตรียมไว้ลงไปต้มประมาณ 45 นาที
4.นำไส้อ่อนที่ต้มนิ่มตักขึ้นมาหั่นเป็นช่อๆ จากนั้นนำเครื่องที่โขลกไว้ใส่ลงไป แล้วตาม ด้วยเครื่องปรุง ซอสหอยนางรม ซอสปรุงรสฝาเขียว ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 10-15 นาที
5.นำไส้อ่อน ที่เราหมักไว้มาย่างให้สุกคอยพลิกกลับด้านเรื่อยๆ ย่างให้ไส้อ่อนเกรียม จากนั้นจัดใส่จาน พร้อมรับประทาน (เทคนิค: ใช้เตาถ่านย่างจะหอมอร่อยกว่า)
แต่เดี๋ยวก่อนได้สูตรทำไส้อ่อนย่างไปแล้ว จะลืมน้ำจิ้มรสเด็ดไปได้อย่างไร ตอนนี้เรามาดูวิธีทำน้ำจิ้มที่ทานคู่กับไส้อ่อนอย่างกันดีกว่า
วัตถุดิบ
1.น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
3.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
4.พริกป่น 2 ช้อนชา
5.ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
6.หอมแดงซอย 2-3 หัว
7.ต้อนหอมซอย 1 ต้น
8.ผักชีฝรั่งซอย 1 ต้น
loading...
วิธีการทำ
1.ผสมน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลทราย เข้าด้วยกัน คนให้น้ำตาลทรายละลายจนหมด
2.ใส่พริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย ต้นหอมซอยและผักชีฝรั่งซอย ลงไปคนให้เข้ากัน แค่ นี้เราก็ได้น้ำจิ้มรสเด็ดไว้ทานคู่กับไส้อ่อนย่างแล้ว
หลังจากอ่านกันแล้ว ชักหิวขึ้นมากันแล้วใช่ไหม เย็นนี้เราไปจัดเตรียมวัตถุดิบมาทำไส้อ่อนย่างเหนียวนุ่มๆอร่อยกำลังดีกับน้ำจิ้มรสเด็ดกันดี อิ่มอร่อยกันเลยทีเดียวคราวนี้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก   share-si.com

ผงะกันทั้งขบวน!! ไบค์เกอร์ช็อก เจอสิ่งลึกลับ ในป่าลึก "รูปร่างคล้ายมนุษย์แต่เล็กกว่า" พอขี่รถไล่ตามเท่านั้นแหละ ขนลุก!! (คลิป)

ผงะกันทั้งขบวน!! ไบค์เกอร์ช็อก เจอสิ่งลึกลับ ในป่าลึก "รูปร่างคล้ายมนุษย์แต่เล็กกว่า" พอขี่รถไล่ตามเท่านั้นแหละ ขนลุก!! (คลิป)

 พบสิ่งมีชีวิตลึกลับในป่าแห่งหนึ่ง ประเทศอินโดนีเซีย ผู้คนต่างออกมาให้ความเห็นว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ คือตัวอะไรกันแน่?!

loading...
วิดีโอนี้ ถูกถ่ายขึ้นที่ป่าแห่งหนึ่งในเมืองบันดาอะเจห์ ประเทศอินโดนีเซีย ถ่ายโดนไบค์เกอร์คนหนึ่ง ตอนนี้ได้แพร่กระจายไปในโลกโซเชียลอย่างรวดเร็วและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องอยากคลิปวิดีโอดังกล่าวถ่ายติด "สิ่งมีชีวิตลึกลับ" ที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่มีขนาดตัวเท่ากับครึ่งนึงของมนุษย์ปกติเท่านั้นเอง ผู้คนต่างออกมาคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าสิ่งมีชีวิตชนิดนี้คือตัวอะไรกันแน่?!

ในขณะที่ไบค์เกอร์กลุ่มนี้กำลังขี่มอเตอร์ไซค์วิบากเยี่ยมชมป่าอยู่นั้น ไบค์เกอร์คนหนึ่งถึงกับมอเตอร์ไซค์ล้มหลังจากที่เขาเห็นสิ่งมีชีวิตลึกลับกระโดดออกมาจากป่า ไบค์เกอร์อีกคนหนึ่งได้ขี่ตามเจ้าสิ่งนี้ไปเพราะความสงสัย แต่ว่าผลสุดท้ายเขาตามไม่ทัน เพราะมันวิ่งเร็วมากแล้วก็กระโดดเข้าป่าไป

ไบค์เกอร์กลุ่มนี้สงสัยมาก ว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นตะกี้มันคืออะไรกันแน่ พวกเขาเลยกะตามมันไป และแล้วพวกเขาก็พบเข้ากับไม้ยาวๆ ท่อนนึง ที่สิ่งมีชีวิตตัวดังกล่าวได้ถืออยู่ก่อนหน้านี้ แต่พวกเขาก็ไม่พบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนั้นอีกเลย

loading...
หลายคนสงสัยว่า สิ่งที่ไบค์เกอร์เหล่านั้นเห็นก็คือ ชนเผ่า Mante ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในป่า ร่างกายมีขนาดเล็กกว่ามนุษย์ปกติ และไม่เป็นมิตรกับคนภายนอก

แต่ก็มีชาวอินโดหลายคนที่ไม่เชื่อว่า ชนเผ่า Mante มีอยู่จริง

บันทึกเกี่ยวกับชนเผ่า Mante ฉบับล่าสุดถูกเขียนขึ้นในศตวรรษที่ 17 กล่าวว่ามีชาวเผ่า Mante สองคนถูกจับและถูกนำตัวส่งสุลต่าน แต่หลายคนก็ยังเชื่อว่าเรื่องเล่าของชนเผ่า Mante เป็นเพียงตำนานเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีเผ่าคนแคระอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย

loading...
ชนเผ่าบางกลุ่มเข้าถึงยากมาก แต่บางกลุ่มก็เปิดเผยต่อคนนอก เช่น เผ่า Ebu Gogo ใน Flores เผ่า Oni ใน Bone เผ่า Uhang Pandak ในป่าสุมาตรา และชนเผ่า Pygmy ใน Rampasasa

บทสรุป ณ ตอนนี้ก็ยังไม่มีนักวิชาการท่านไหนออกมายืนยันว่า สิ่งที่ไบค์เกอร์กลุ่มนี้เห็น คืออะไรกันแน่?!

หัวอกคนเป็นแม่!! ไม่รู้ว่าตัวเองตาย กลับไปที่บ้านทำอาหารให้ลูกกิน พอลูกเห็นอาหาร จึงพูดประโยคนี้ออกมา น้ำตาไหล!?

หัวอกคนเป็นแม่!! ไม่รู้ว่าตัวเองตาย กลับไปที่บ้านทำอาหารให้ลูกกิน พอลูกเห็นอาหาร จึงพูดประโยคนี้ออกมา น้ำตาไหล!?


loading...
ธอเป็นหญิงวัยกลางคน เธอเลิกกับสามีมาหลายปีแล้ว แต่ไม่ได้แต่งงานใหม่ ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายแค่สองคนมาโดยลำพัง ปีนี้ลูกชายเรียนม.ปลายปีสุดท้ายแล้ว เพื่อเลี้ยงดูลูกชายสุดที่รัก เธอเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวริมถนน ร้านเปิดตั้งแต่เช้าตรู่จนเกือบค่ำ

วันนี้ก็เหมือนทุกๆวันเธอมาเปิดร้านแต่เช้า ตั้งหม้อก๋วยเตี๋ยวเตรียมรอลูกค้า ด้านนอกมีชายสองคนยืนคุยกันอยู่ “ยังเร็วอยู่เลย เข้าไปกินก๋วยเตี๋ยวสักชามแล้วค่อยไปก็ได้” ชายเสื้อขาวเสนอ “เอาสิ” ชายเสื้อดำพนักหน้ารับ

ทั้งสองเดินเข้ามาในร้านสั่งก๋วยเตี๋ยวคนละชาม จากนั้นก็กินจนเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่น้ำซุปสักหยด แล้วชายเสื้อขาวก็หันมายกนิ้วให้เธอ พร้อมชม “อร่อยมาก เดี๋ยวไปถึงที่นู่นจะให้ทำให้กินอีกสักชาม แล้วข้าจะช่วยพูดชมเจ้าให้”

เธอขำที่ชายเสื้อขาวพูด จะไปไหน ชมอะไรก็เลยถาม เขาก็เลยตอบว่า “ในนรกไง เจ้าตายแล้วนี่นา นี่คงยังไม่รู้ตัวล่ะสิ” “ตายอะไร อย่ามาพูดมั่วๆ ฉันยังทำก๋วยเตี๋ยวให้คุณสองคนกินอยู่เลย” “ไม่เชื่อก็ออกไปดูตรงสี่แยกสิ” เธอไม่เชื่อเดินออกจากร้านตรงไปที่สี่แยก เห็นรถตำรวจกับรถพยาบาลจอดอยู่หน้ารถขนปูน เธอแหวกผู้คนเข้าไปข้างในแล้วก็เห็นผู้หญิงที่เหมือนเธอทุกอย่าง แม้แต่เสื้อผ้าและรองเท้านอนจมกองเลือดอยู่ ถัดไปไม่ไกลก็มีรถจักรยานไฟฟ้าที่เธอขี่มาร้านทุกวันล้มพังอยู่หน้ารถขนปูน

loading...
ชายเสื้อขาวดำสองคน เดินมาอยู่ทางด้านหลังเธอ “เห็นแล้วใช่มั้ยว่าเจ้าตายแล้ว ไปกันได้รึยัง”
“ท่านทั้งสองเจ้าคะ ขอดิฉันไปเจอลูกอีกสักครั้ง ไปทำอาหารให้แกกินอีกสักมื้อได้มั้ย อีกหน่อยแกก็จะไม่ได้กินอาหารฝีมือแม่อีกแล้ว” ชายสองคนมองหน้ากันแล้วพยักหน้า แล้วทั้งสามก็มาโผล่ที่โรงเรียนของลูกชาย เธอเห็นลูกชายกำลังตั้งใจเรียนก็ดีใจน้ำตาไหล แต่ลูกชายมองไม่เห็นแม่ จากนั้นเธอก็กลับบ้านไปทำอาหารจานโปรดของลูก สารพัดอาหารที่ลูกชายชอบวางเรียงเต็มโต๊ะ ยังไม่ทันที่ลูกจะกลับบ้าน ก็ถึงเวลาที่เธอต้องไป เธอเหลือบมองทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากไป

ลูกชายกลับมาถึงบ้านก็ร้องว้าวอย่างดีใจที่กับข้าวของโปรดวางเต็มโต๊ะ รีบตะโกนถามแม่ “ว้าว!น่ากินที่สุด ทำไมวันนี้แม่กลับบ้านเร็วจังครับ” พ่อของเขาที่เพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล เดินออกมาจากครัว “แม่กลับมาทำอาหารให้ แล้วก็ไปต่างจังหวัดแล้วลูก แม่คงต้องไปทำงานที่นั่นอีกนาน ตอนนี้ก็ขายร้านก๋วยเตี๋ยวไปเรียบร้อยแล้ว อีกหน่อยพ่อจะมาอยู่เป็นเพื่อนแกเองนะ”

ความรักของแม่ยิ่งใหญ่ เฉกเช่นน้ำในมหาสมุทร

ความรักของแม่บริสุทธิ์ เฉกเช่นน้ำค้างยามรุ่งอรุณ

loading...
ทีมาsiamvariety.com

ช็อกสติแตก!! ชายหนุ่มลงคลอง งมหอยอยู่ดีๆ คิดว่าได้ “หอยยักษ์” แต่ต้องน้ำตาคลอ เมื่อมันคือสิ่งนี้ ผวาขาสั่นกันทั้งบาง!


loading...
เมื่อวานนี้ (18 เม.ย. 60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่ามีชาวบ้านไปงมหอยในคลองใกล้สะพานมัฆวานรังสรรค์ หมู่ที่ 3 ตำบลพรหมณี อ.เมือง จ.นครนายก พบว่ามี ลูกระเบิดในคลอง จึงได้ประสานงานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดประจำจังหวัดนครนายก (หน่วย EOD ) เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างเร่งด่วน

loading...
จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบชาวบ้านยืนอยู่ใกล้ลำคลองจึงได้กั้นให้ออกห่างจากจุดที่พบลูกระเบิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วย EOD ได้ลงไปเก็บกู้วัตถุระเบิดในลำคลอง ซึ่งต้องใช้เวลางมหาประมาณ 10 นาที่จึงพบลูกระเบิด นำขึ้นมาเพื่อให้ร้อยเวรเจ้าของคดีได้ตรวจสอบ พบว่าเป็นลูกระเบิดลูกซ้อมที่ติดอยู่กับเครื่องบินสำหรับทำการฝึกซ้อม ลักษณะคล้ายลูกหัวปรี มีนัมเบอร์ BDU 33 D/B น้ำหนักกว่า 30 กิโลกรัม และไม่มีอันตรายเนื่องจากลูกระเบิดได้จมน้ำมาเป็นเวลานานแล้ว

จากการสอบถามนายวันเฉลิม พันธ์ศิริ อายุ 26 ปี ชาวอุดรธานี ผู้พบระเบิดดังกล่าว ระบุว่า ได้ชวนเพื่อนออกมาลงงมหอยในลำคลองใกล้สะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งงมได้สักพักก็ต้องตกใจ เมื่องมไปพบลูกระเบิดลักษณะคล้ายหัวปลี ความตกใจจึงได้ทิ้งลงคลองไปแล้วรับวิ่งไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ เพื่อโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บข้อมูลหลักฐานและมอบลูกระเบิดให้เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดประจำจังหวัดนครนายก นำไปทำลายทิ้งต่อไป
loading...
ขอบคุณเว็บไซต์ : siamvariety

Kategori

Kategori